ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีลักษณะเป็นทวีป และเป็นดินแดนเก่าแก่ที่มีประชากรตั้งรกรากมาเป็นเวลายาวนาน โดยก่อนที่ชาวยุโรปจะมาตั้งรกรากนั้น ชาวอะบอริจิน (Aborigine) และชาวเกาะทอร์เรสเทรต (Torres Strait Islanders) ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของทวีปนี้
ออสเตรเลียตั้งอยู่ระหว่างมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิกในส่วนที่ เรียกว่า โอเชียเนีย (Oceania) ประกอบด้วยแผ่นดินหลักของทวีปออสเตรเลีย เกาะแทสเมเนีย และเกาะอื่นๆใน มหาสมุทรอินเดีย แปซิฟิก และมหาสมุทรใต้
ประเทศออสเตรเลียในปัจจุบัน นับเป็นประเทศที่มีความมั่นคงทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และการศึกษา
รูปแบบการศึกษาของออสเตรเลีย
ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักศึกษาทั่วโลก ในการเลือกศึกษาต่อ เนื่องจากเป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาราชการที่อยู่ไม่ห่างจากประเทศไทยมากนักและมีบรรยากาศที่เหมาะกับการเรียน ประกอบกับมาตรฐานทางการศึกษาที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ รูปแบบการศึกษาของออสเตรเลียกำหนดโดยรัฐบาลกลางของออสเตรเลียมีวัตถุประสงค์ ที่จะแสดงให้เห็นว่าระดับการศึกษาต่างๆมีความสัมพันธ์กันอย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักศึกษาในการที่จะเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อศึกษาต่อ ในระดับชั้นเรียนที่ต้องการศึกษาต่อในออสเตรเลีย ระบบการศึกษาของประเทศออสเตรเลียแบ่งเป็นระดับต่างๆ
ระบบการศึกษาต่อออสเตรเลีย แบ่งออกไว้เป็น 5 ส่วน ดังนี้
1. การศึกษาระดับอุดมศึกษา(มหาวิทยาลัย) เพื่อเตรียมความเป็นมืออาชีพ และพัฒนาความเป็นปัญญาชน
2. อาชีวศึกษาและการฝึกอบรม เพื่อฝึกอบรมให้นักศึกษามีความพร้อมในการเข้าทำงานในบริษัท และภาคอุตสาหกรรมต่างๆ
3. หลักสูตรการศึกษาพื้นฐานเพื่อเตรียมให้นักศึกษาต่างชาติมีความพร้อมในการศึกษาต่อสถาบันอุดมศึกษาในประเทศออสเตรเลีย
4. หลักสูตรภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษาต่างชาติ (ELICOS) เพื่อเพิ่มพูนทักษะการใช้ภาษาอังกฤษของนักศึกษาต่างชาติเพื่อศึกษาต่อในหลักสูตรการศึกษาต่างๆ
5. มัธยมศึกษา และประถมศึกษา เป็นการศึกษาภาคบังคับเพื่อศึกษาต่อในสายสามัญศึกษา ระดับอุดมศึกษา หรืออาชีวศึกษา
ระดับอนุบาลหรือวัยก่อนเข้าเรียน (Pre-School)
เด็ก ๆ ในประเทศออสเตรเลียสามารถเข้าเรียนในระดับอนุบาลได้ตั้งแต่อายุ 3 ขวบเป็นต้นไป การศึกษาระดับนี้ไม่ได้เป็นการศึกษาภาคบังคับ หากแต่เน้นให้เด็กมีพัฒนาการทางด้านร่างกายและสติปัญญา เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าเรียนในระดับประถมศึกษา
ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
การศึกษาภาคบังคับในประเทศออสเตรเลียกำหนดไว้สำหรับเด็กอายุระหว่าง 6-15 ปี การจัดการศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในประเทศออสเตรเลียอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของแต่ละรัฐ ประเทศออสเตรเลียมีโรงเรียนที่มีคุณภาพสูงจำนวนมาก ทั้งที่เป็นโรงเรียนรัฐบาล โรงเรียนเอกชนและโรงเรียนที่ดำเนินการร่วมกับองค์กรศาสนา โรงเรียนของรัฐบาลจะเป็นประเภทไปกลับ (Day School) ส่วนโรงเรียนเอกชนจะมีทั้งโรงเรียนประจำ(Boarding School) และไป-กลับ นอกจากนี้โรงเรียนยังแบ่งเป็นประเภทโรงเรียนชายล้วน หรือหญิงล้วน และโรงเรียนสหศึกษา นักเรียนสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (อายุประมาณ 18 ปีหรือบางทีก็เรียกชั้นปีที่ 12) ทุกโรงเรียนจัดสอนวิชาแกนคล้าย ๆ กันและอาจเรียนเป็นพิเศษในวิชาอื่นๆ ที่มีให้เลือกหลากหลาย ในการเข้าศึกษาระดับมหาวิทยาลัย นักเรียนต้องสอบและวัดผลการเรียนในชั้นปีที่ 11 และ 12 เพื่อให้ได้รับประกาศนียบัตรการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยทั่วไปแล้วโรงเรียนจะรับนักเรียนต่างชาติเข้าเรียนตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 เป็นต้นไป สำหรับระดับประถมศึกษาโรงเรียนจะพิจารณานักเรียนเป็นรายบุคคลไป นักเรียนต่างชาติที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี รัฐบาลออสเตรเลียกำหนดให้ต้องมีผู้ปกครอง (Guardian) คอยดูแล ซึ่งควรเป็นบิดาหรือมารดา หรือญาติพี่น้องที่อยู่ในออสเตรเลีย ถ้าไม่มีผู้ปกครองทางโรงเรียนจะจัดหาให้โดยจะต้องเสียค่าธรรมเนียมประมาณสัปดาห์ละ 30 เหรียญออสเตรเลีย ถ้าเป็นนักเรียนประจำก็จะมีอาจารย์ในโรงเรียนเป็นผู้ดูแล
โรงเรียนจะมีการแบ่งระดับการศึกษาดังต่อไปนี้ (ซึ่งแต่ละรัฐอาจมีการแบ่งที่แตกต่างกัน)
– ประถมศึกษา (Primary School) คือชั้นปีที่ 1-6 หรือ 7
– มัธยมศึกษา (Secondary School) คือชั้นปีที่ 7 หรือ 8-12
– มัธยมศึกษาตอนต้น (Junior Colleges) คือชั้นปีที่ 7 หรือ 8-10
– มัธยมศึกษาตอนปลาย (Senior Colleges) คือชั้นปีที่ 11 และ ปีที่ 12
โดยทั่วไปแล้วโรงเรียนจะรับนักเรียนเข้าเรียนต่อในชั้นเรียนตามอายุที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามระดับการศึกษาที่นักเรียนต่างชาติจบมา ตัวอย่างเช่น นักเรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากประเทศไทยสามารถเรียนต่อในชั้นปีที่ 10 ของออสเตรเลียได้เลย แต่อาจมีข้อยกเว้นสำหรับนักเรียนที่มีปัญหาเรื่องผลการเรียนและความสามารถด้านภาษาอังกฤษ รายวิชาที่บรรจุในหลักสูตรสำหรับมัธยมศึกษาโดยทั่วไปได้แก่ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ศิลปศึกษา (ดนตรี ศิลปะ งานประดิษฐ์และการละคร) และสุขศึกษา (รวมถึงพลศึกษาและการพัฒนาบุคลิกภาพ)
ภาคการศึกษาของระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา จะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมไปจนถึงกลาง เดือนธันวาคม โดยแบ่งออกเป็น 4 เทอมๆ ละประมาณ 10-12 สัปดาห์
สถาบันอาชีวศึกษาและการฝึกอบรม
(Vocational Education and Training Institutes)
ออสเตรเลียมีหลักสูตรสายอาชีพนับเป็นพัน ๆ หลักสูตรที่เปิดสอนทั่วประเทศ ทั้งมหาวิทยาลัย เอกชน และสถาบันเทคนิคและการศึกษาต่อเนื่อง (Technical and Further Education-TAFE) ซึ่งเป็นของรัฐบาล คุณวุฒิอาชีวศึกษาและฝึกอบรมเป็นที่นิยมกันมากในประเทศออสเตรเลียเนื่องจากเป็นคุณวุฒิที่มีมาตรฐานสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับระบบการศึกษาของต่างชาติบางระบบ นอกจากนั้นยัง ทำให้นักเรียนเกิดทักษะเชิงปฏิบัติที่สามารถนำไปใช้ได้จริงและยังให้ประสบการณ์ทำงานในภาคอุตสาหกรรม นักเรียนสามารถเริ่มเรียนอาชีวะศึกษาและการฝึกอบรมได้หลังจากสำเร็จจากชั้นมัธยมศึกษา (ชั้นปีที่ 10) หรือชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ชั้นปีที่ 12) สถาบันอาชีวศึกษาหลายแห่งมีความสัมพันธ์และข้อตกลงความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย ซึ่งหมายความว่าสามารถเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีได้ โดยมหาวิทยาลัยรับโอนหน่วยกิตถึง 1 ปี และเมื่อคุณสามารถศึกษาได้คะแนนตามที่สถาบันอาชีวศึกษากำหนด สถาบันอาชีวศึกษาจะเสนอคุณวุฒิการศึกษาเป็นประกาศนียบัตรวิชาชีพระดับ 1 ระดับ 2 ระดับ 3 และระดับ 4 ซึ่งหากสามารถเรียนประกาศนียบัตรระดับสูงขึ้นมากก็จะมีความรับผิดชอบในหน้าที่การงานในสถานประกอบการเพิ่มมากขึ้นด้วย ตัวอย่างเช่น
– ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (Certificate) จะสอนทักษะขั้นพื้นฐานเน้นความรู้เชิงปฏิบัติและปู พื้นฐานสำหรับผู้ที่ประสงค์จะศึกษาต่อในสาขาเฉพาะต่อไป ประกาศนียบัตรวิชาชีพแบ่งออกเป็น ระดับ 1 ถึง ระดับ 4 (Certificate I – IV) มีระยะเวลาในการเรียนตั้งแต่ประมาณ 6 เดือนจนถึง 1 ปี
– อนุปริญญา (Diploma)
หลักสูตรอนุปริญญาเป็นหลักสูตรเรียนควบภาคทฤษฎีกับทักษะเชิงเทคนิคและเชิงสร้างสรรค์ระดับสูง ระยะเวลาของหลักสูตรประมาณ 2 ปี เป็นหลักสูตรที่ครอบคลุมทั้งระดับปฏิบัติและการวางแผนเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการก้าวขึ้นไปสู่ตำแหน่งหัวหน้างาน ทั้งยังเป็นหลักสูตรพื้นฐานสำหรับนักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อเนื่องในระดับปริญญาตรีอีกด้วย โดยทั่วไปผู้ที่จบอนุปริญญาแล้วและต้องการศึกษาต่อระดับปริญญาตรี สาขาวิชาที่ใกล้เคียงกันจะได้รับการพิจารณาเทียบหน่วยกิตได้ประมาณ 1 ปี
– อนุปริญญาขั้นสูง (Advanced Diploma)
เป็นหลักสูตรที่สูงกว่าระดับอนุปริญญาเล็กน้อยและเรียนเต็มเวลา 2-3 ปี หลักสูตรระดับปริญญาตรี เนื้อหาและวัตถุประสงค์ของหลักสูตรจะคล้ายคลึงกับระดับอนุปริญญา แต่สามารถเทียบโอนหน่วยกิตได้มากกว่าระดับอนุปริญญา ภาคการศึกษาจะเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงต้นเดือนธันวาคม โดยแบ่งเป็น 2 ภาค การศึกษาเช่นเดียวกับระดับมหาวิทยาลัย ส่วนหลักสูตรภาษาอังกฤษจะมีการเปิดตลอดทั้งปี สำหรับวิทยาลัยอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมของเอกชนจะเปิดสอนในหลายหลายสาขาวิชา และแบ่งโครงสร้างระดับการศึกษาเช่นเดียวกันกับที่สถาบัน TAFE บางแห่งอาจเปิดสอนเฉพาะทาง เช่น วิทยาลัยที่เปิดสอนทางด้านการบิน วิทยาลัยที่เปิดสอนด้าน ศิลปะและการออกแบบ เป็นต้น และส่วนใหญ่จะเปิดสอนหลักสูตรภาษาอังกฤษ (ELICOS) ควบคู่ไปด้วย วิทยาลัยจะมีชั้นเรียนขนาดเล็ก จำนวนนักศึกษาเฉลี่ยประมาณ 20 คน เนื้อหาของวิชาและระยะเวลาของหลักสูตรจะถูกกำหนดโดยตัววิทยาลัยแต่ละแห่งเอง
การศึกษาระดับอุดมศึกษา (มหาวิทยาลัย)
การศึกษาระดับอุดมศึกษาหรือการศึกษาในมหาวิทยาลัยเป็นระดับการศึกษาที่สูงที่สุด ปัจจุบันประเทศออสเตรเลียมีมหาวิทยาลัย 40 แห่ง ซึ่งเป็นของรัฐบาล 38 แห่ง และเอกชน 2 แห่ง ซึ่งต่างก็ได้รับการรับรองวิทยฐานะเท่าเทียบกัน ระบบการศึกษาของออสเตรเลียมุ่งเน้นความเป็นเอกเทศและความต้องการเฉพาะตัวจึงทำให้มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียมีความเป็นปัจเจก ซึ่งยากแก่การเปรียบเทียบหรือจัดระดับ เมื่อนักศึกษาตัดสินใจเลือกที่จะศึกษาในสถาบันการศึกษาของออสเตรเลียก็ควรพิจารณาจากเนื้อหาของหลักสูตร ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ระบบการเรียนการสอน สภาพแวดล้อม และสถานที่ตั้งเป็นหลัก มหาวิทยาลัยออสเตรเลียเปิดสอนหลักสูตรระดับปริญญาตรีจนถึงปริญญาเอก และบางแห่งเปิดสอนระดับอนุปริญญาด้วย สาขาวิชาที่เปิดสอนครอบคลุมทั้งสาขาทาง วิชาชีพและวิทยาการต่าง ๆ เช่น วิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ การแพทย์ และธุรกิจ สาขาวิชาที่นักศึกษาต่างชาตินิยมเรียนมากที่สุดคือ ธุรกิจ การบริหาร การจัดการ เทคโนโลยีสารสนเทศ และวิศวกรรมศาสตร์ เป็นต้น ในระดับมหาวิทยาลัยมีการแบ่งการศึกษาออกเป็น 2 ระดับ คือ ระดับปริญญาตรี (undergraduate) และการศึกษาสำหรับผู้ที่สำเร็จขั้นปริญญาตรีแล้วเรียกว่าระดับบัณฑิตศึกษา (postgraduate)
ปริญญาตรี (Bachelor Degree)
หลักสูตรปริญญาเป็นหลักสูตรระดับปริญญาที่สำคัญ ซึ่งเป็นข้อกำหนดพื้นฐานสำหรับวิชาชีพ ส่วนใหญ่และใช้เวลาเรียน 3- 6 ปี และบางสาขาอาจใช้เวลามากกว่านี้ ในออสเตรเลียไม่มีกาสอบ เอ็นทรานซ์ (entrance) ฉะนั้นการรับนักศึกษาในระดับปริญญาตรี จะพิจาณาจากผลการเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือจากคุณวุฒิที่เทียบเท่า ในกรณีที่เป็นนักเรียนต่างชาติ มหาวิทยาลัยอาจกำหนดคุณสมบัติในการเข้าเรียนของนักเรียนจากประเทศต่าง ๆ แตกต่างกันออกไป เช่น สำหรับนักเรียนไทยที่จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 และมีผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดีมากอาจได้รับการพิจาณาให้เข้าเรียนในระดับปริญญาตรีในบางมหาวิทยาลัยได้เลย หลายสถาบันอาจพิจาณาผู้ที่สำเร็จมหาวิทยาลัยปีที่ 1 แล้วเท่านั้น นอกจากนี้มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียส่วนใหญ่ยังไม่ยอมรับผลการสอบเทียบจากประเทศไทย แต่ได้มีการเปิดสอนการศึกษาพื้นฐาน (Foundation Studies) สำหรับผู้ที่คุณสมบัติไม่ถึงเกณฑ์ที่จะเข้าระดับปริญญาตรีรวมทั้ง นักเรียนที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าจากประเทศไทยด้วย
ปริญญาตรีเกียรตินิยม (Bachelor Degree with Honours)
นักศึกษาสามารถขอศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีเกียรตินิยมได้หลังจากสำเร็จปริญญาตรีด้วยผลการเรียนดีเยี่ยมโดยการลงทะเบียนเรียนเพิ่มสำหรับปีเกียรตินิยมได้ตั้งแต่ต้น โดยจะใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 4-7 ปี การเรียนปริญญาตรีเกียรตินิยมจะมีการเรียนทั้งภาคบรรยายและภาควิทยานิพนธ์ ในกรณีที่สอบได้คะแนนดีมากและได้เกียรติอันดับหนึ่ง จะได้รับการรับรองวุฒิให้เทียบเท่ากับปริญญาโท จึงสามารถจะเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกได้เลย โดยไม่ต้องเรียนปริญญาโท
ระดับบัณฑิตศึกษา
ประกาศนียบัตรบัณฑิต (Graduate Certificate/Postgraduate Certificate) หลักสูตรนี้ช่วยให้ได้รับคุณวุฒิการศึกษาในสาขาวิชาที่เลือกเรียนหรือเพิ่มพูน ความรู้และประสบการณ์จากที่มีอยู่เดิม ใช้เวลาในการเรียนเต็มเวลาแบบเข้าชั้นเรียนประมาณ 6 เดือน บางมหาวิทยาลัยจะใช้เป็นหลักสูตรประเมินผลสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อระดับปริญญาโทแต่คุณสมบัติยังไม่เหมาะสม
อนุปริญญาโท (Graduate Diploma / Postgraduate Diploma)
หลักสูตรนี้ช่วยให้ได้รับการเสริมสร้างความรู้หรือช่วยให้สามารถเรียนในสาขาวิชาที่แตกต่างจากสาขาวิชาที่คุณเรียนสำเร็จในระดับปริญญาตรี เพราะช่วยให้มีคุณสมบัติที่เข้าเรียนต่อปริญญาโท และใช้เวลาเรียนเต็มเวลาแบบเข้าชั้นเรียนประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี หลายมหาวิทยาลัยจัดให้หลักสูตรอนุปริญญาโท (Graduate Diploma) เป็นหลักสูตรปีแรกของปริญญาโท หากนักศึกษาทำคะแนนได้ดีก็สามารถผ่านเข้าไปเรียนในปีที่ 2 ของปริญญาโทได้เลย
ปริญญาโท (Master Degree)
เป็นการจัดหลักสูตรเพื่อเพิ่มพูนความรู้ในสาขาที่เรียนนอกเหนือจากระดับปริญญาตรีและปริญญาตรีเกียตินิยม ใช้เวลาเรียนประมาณ 1-2 ปี การเรียนระดับปริญญาโทสามารถเป็นแบบเข้าชั้นเรียนหรือแบบทำการวิจัยหรือควบทั้งสองอย่างก็ได้ ผู้ที่จะเข้าศึกษาต่อปริญญาโทจะต้องมีคุณวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่าและมีผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ บางมหาวิทยาลัยอาจขอให้นักศึกษาลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต (Graduate Certificate) หรืออนุปริญญาโท (Graduate Diploma) หรือหลักสูตรเตรียมศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่เรียกว่า “Qualifying Program” หรือ “Preliminary Program” เพื่อขอประเมินผลการเรียนว่าจะสามารถศึกษาต่อในระดับปริญญาโทได้หรือไม่
Master of Philosophy เป็นหลักสูตรที่ช่วยพัฒนาทักษะการทำวิจัย ใช้เวลาศึกษาแบบการทำวิจัยประมาณ 18 เดือน ถึง 3 ปี
Doctorate เป็นหลักสูตรที่ได้รับการออกแบบสำหรับมืออาชีพกลับมาศึกษาเพื่อพัฒนาการปฏิบัติเชิงวิชาชีพ ใช้เวลาศึกษาเต็มเวลา ระหว่าง 2- 4 ปี โดยทั่วไปเป็นการศึกษาแบบเข้าชั้นเรียน
Doctor of Philosophy เป็นหลักสูตรปริญญาเอก หรือที่เรียกย่อ ๆว่า Ph. D เป็นระดับการศึกษาสูงสุดที่ เปิดสอนในมหาวิทยาลัย ใช้เป็นระยะเวลาในการศึกษาชั้นสูงในการทำวิจัยในสาขาวิชาเฉพาะทาง นักศึกษาจึงควรมีพื้นฐานในการทำวิจัยหรือเขียนวิทยานิพนธ์มาก่อน ปัจจุบันมีบางมหาวิทยาลัยได้พิจารณาเพิ่มหลักสูตรแบบเข้าชั้นเรียน (coursework) เข้าเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนระดับปริญญาเอกด้วย ภาคการศึกษาเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงเดือนพฤศจิกายน โดยแบ่งเป็น 2 ภาคการศึกษา ดังนั้น นักศึกษาควรเดินทางไปถึงออสเตรเลียอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ ก่อนที่จะเริ่มภาคการศึกษา เพื่อที่จะได้มีเวลาในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ และโดยปกติแล้วมหาวิทยาลัยมักจะจัดให้มีการปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ก่อนเปิดภาคเรียนประมาณ 2 สัปดาห์
การสมัครขอวีซ่าประเภทนักเรียน
ขอวีซ่านักเรียนประเทศออสเตรเลีย
เฉพาะหลักสูตรที่สั้นกว่า 3 เดือนเท่านั้นที่คุณจะสามารถเรียนได้โดยใช้วีซ่าท่องเที่ยว หรือวีซ่าท่องเที่ยวและทำงาน ดังนั้นหากคุณวางแผนว่าจะศึกษานานกว่า 3 เดือน คุณต้องขอวีซ่านักเรียน
สิทธิของวีซ่านักเรียนมีดังนี้
• ได้รับอนุญาตให้เรียนคอร์สต่างๆได้มากกว่า 3 เดือน
• ได้รับอนุญาตให้ทำงานได้ถูกต้องตามกฏหมายได้ สัปดาห์ละไม่เกิน 20 ชั่วโมง
• ได้รับส่วนลดต่างๆจากสถานบริการในราคานักเรียนนักศึกษา เช่น โรงภาพยนตร์ ยกเว้นแต่ระบบคมนาคมเช่น รถไฟ รถประจำทาง เรือเฟอร์รี่ ที่จะต้องจ่ายให้ราคาปกติ
การยืนขอวีซ่านั้น สามารถทำได้ทันที ที่เราได้รับเอกสารตอบรับจากสถาบันการเรียนที่เราสมัครไว้ เรียกว่า OFFER LETTER และที่สำคัญที่สุด เราจำเป็นจะต้องการเอกสารยืนยันการลงทะเบียนในแต่จะคอร์สเรียนนั้นๆด้วย เรียกว่า Confirmation of Enrollment หรือ COE นั้นเอง
เอกสารของนักเรียน
(เอกสารทุกอย่างต้องแปลภาษาอังกฤษด้วย) เอกสารทั้งหมดขออย่างละ 2 ชุด
I. หนังสือเดินทาง (ตัวจริง)
II. รูปถ่าย 2 นิ้ว จำนวน 2 ใบ (ถ่ายรูปหน้าใหญ่ๆ ประมาณ 80% ของรูป เหมือนรูปถ่ายใน passport)
III. สำเนาบัตรประชาชน
IV. สำเนาทะเบียนบ้าน
V. สำเนาสูติบัตร (สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี)
VI. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล (ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข)
VII. สำเนาทะเบียนสมรสหรือใบหย่า (ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข)
VIII. ผลการเรียน (transcript) ภาษาอังกฤษ
IX. จดหมายรับรองการทำงาน (ภาษาอังกฤษ) ตั้งแต่เรียนจบ มีกี่ที่ขอทุกที่ที่เคยทำงานมา หรือ ใบทะเบียนการค้าและหนังสือรับรอง ในกรณีที่ทำธุรกิจส่วนตัว กรณีที่ยังเรียนอยู่ ให้ขอจดหมายรับรองความเป็นนักเรียน นักศึกษา (ภาษาอังกฤษ)
X. slip เงินเดือนย้อนหลัง 5-6 ใบ
XI. สำเนาใบเสร็จการเสียภาษีย้อนหลัง 5-6 ใบ
XII. ประกาศนียบัตรที่เรียนภาษา ณ ประเทศออสเตรเลีย (ถ้ามี)
XIII. หากเคยขอวีซ่าออสเตรเลียมาก่อน ให้สำเนาหน้าวีซ่าของออสเตรเลียมาให้ด้วย (ทุกหน้าที่เคยได้วีซ่าออสเตรเลีย)
XIV. จดหมายแนะนำตัว และเหตุผลในการไปเรียนที่ออสเตรเลีย
(เนื้อหาที่เขียนให้บอกว่าตัวเราเป็นใคร เรียนจบอะไรมา เมื่อไร ปัจจุบันทำงานอะไร เหตุผลที่เลือกเรียนต่อที่ออสเตรเลีย ทำไมถึงเลือกเรียนหลักสูตรนี้ เรียนจบแล้วนำความรู้ที่ได้กลับมาทำอะไรต่อในอนาคต)
หมายเหตุ กรณีที่เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องแนบเอกสารของผู้ปกครอง (บิดาและมารดา) เอกสารทุกอย่างใช้ทั้งภาษาไทยและตัวแปลภาษาอังกฤษ ดังนี้
I. สำเนา passport (ถ่ายสำเนาสี) พร้อมลายเซ็นต์เหมือนที่เซ็นต์ใน passport กำกับด้านล่างมุมขวา โดยต้องเขียนข้อความตามนี้
II. Certified True Copy
III. ลายเซ็นต์
IV. สำเนาบัตรประชาชน
V. สำเนาทะเบียนบ้าน
VI. สำเนาทะเบียนสมรสหรือทะเบียนหย่า
VII. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุล (ทุกฉบับที่เคยมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข)
เอกสารของ SPONSOR (เอกสารทุกอย่างต้องแปลภาษาอังกฤษด้วย)เอกสารทั้งหมดขออย่างละ 2 ชุด
1. สำเนาบัตรประชาชน
2. สำเนาทะเบียนบ้าน
3. สำเนาทะเบียนสมรส หรือใบหย่า
4. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ หรือใบเปลี่ยนนามสกุล (ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข)
5. จดหมายรับรองการทำงาน (ภาษาอังกฤษ) หรือใบทะเบียนการค้าและหนังสือรับรอง ในกรณีที่ทำธุรกิจส่วนตัว
6. slip เงินเดือนย้อนหลัง 5-6 ใบ
7. สำเนาใบเสร็จเสียภาษีย้อนหลัง 5-6 ใบ
8. หากเป็นชาวไร่ชาวสวน ให้ขอเอกสารที่บ่งบอกการเป็นเกษตรกรกำกับด้วย และหรือ ใบเสร็จการรับซื้อขายผลผลิต
9. ใช้สมุดธนาคารตัวจริง(บัญชีออมทรัพย์) ที่มียอดการเดินปัญชีย้อนหลัง 6 เดือน ซึ่งวงเงินที่ใช้โชว์ประมาณ 6 แสนขึ้นไป (สำหรับเรียนภาษา 6 เดือน) วงเงินประมาณ 1 ล้านบาทขึ้นไป (สำหรับหลักสูตร 2 ปีขึ้นไป)
10. จดหมายเหตุผลที่ให้การสนับสนุน การเงินให้ไปเรียน (เนื้อหาให้บอกว่า sponsor เป็นใคร มีความสัมพันธ์อะไร ยังไงกับผู้ยื่นเรื่องขอวีซ่า และปัจจุบัน sponsor ทำอะไร ที่ไหน ตั้งแต่เมื่อไร รายได้ต่อเดือนประมาณเท่าไร ทำไมถึงยินยอมมาเป็น sponsor ให้ (เหตุผล))
หมายเหตุ
กรณีที่ผู้สนับสนุน (SPONSOR) ไม่ใช่บิดามารดา จะต้องมีเอกสารโยงความสัมพันธ์เพิ่มเป็นทอดๆ ซึ่งเอกสารที่ใช้โยงความสัมพันธ์
1. สำเนาบัตรประชาชน
2. สำเนาทะเบียนบ้าน
3. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล (ถ้ามีการเปลี่ยนแก้ไขชื่อนามสกุล)
4. สำเนาทะเบียนสมรสหรือใบหย่า
เช่น น้องสาวแม่เป็น sponsor เอกสารที่โยงความสัมพันธ์ก็จะเป็นเอกสารของแม่
หมายเหตุ ค่าธรรมเนียมอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบได้ที่ VFS หรือแผนกวีซ่าของสถานทูตออสเตรเลีย
*** ไม่มีการคืนค่าธรรมเนียมวีซ่าของสถานทูต และ VFS ไม่ว่าจะได้รับการพิจารณาวีซ่าหรือไม่***
การยื่นใบสมัครขอวีซ่าผ่านทางสำนักงานเพื่อการยื่นขอวีซ่าออสเตรเลียนั้นไม่มีผลใด ๆ ต่อการพิจารณาวีซ่า ข้อกำหนดในการขอวีซ่ายังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง สถานฑูตออสเตรเลียเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจอนุมัติวีซ่า โดยประเมินจากคุณสมบัติของ ผู้ยื่นขอวีซ่าตามข้อกฎหมายและนโยบายของประเทศออสเตรเลีย พนักงานของสำนักงานเพื่อการยื่นขอวีซ่าออสเตรเลียไม่ใช่เจ้าพนักงานของรัฐบาลออสเตรเลีย และไม่มีอำนาจใด ๆ ในการให้คำปรึกษาหรืออนุมัติวีซ่า
ข้อมูลทั่วไปสำนักงานVFS
อีเมล: info.dibpth@vfshelpline.com
ที่อยู่ :ศูนย์ยื่นวีซ่าประเทศออสเตรเลีย อาคารเดอะเทรนดี้ ออฟฟิศ ชั้น 28 สุขุมวิท ซอย 13 แขวงคลองเตยเหนือเขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
เวลาทำการ : 8.30 น. – 16.30 น. วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ ยกเว้นวันหยุดของสถานทูตออสเตรเลีย
เวลายื่นใบสมัคร : 8.30 น. – 15.00 น.-
เวลารับผล : 10.00 น.- 16.30 น.
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม :
สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ :++66(0) 21187100
ระหว่างเวลา 8.30-16.30 น. วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ยกเว้นวันหยุดของสถานทูตออสเตรเลีย